วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

My Win#1 : Case Study for TCC

TCC
- Market : SET
- Industry : Resource
- Sector : Energy & Utilities



i) 1st See : ในวันที่พบหุ้นตัวนี้เกิดจากการสรุปตลาดในทุกๆเย็นที่ทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว หุ้นในกลุ่ม Top gainer จะถูกสแกนดูทุกตัว แม้กระทั่งหุ้นในกลุ่ม Top Active Value, Top Active Volume ทุกตัว จะถูกScan แทบจะทั้งหมด ในกรณี TCC มาเจอตอนสิ้นวันตลาดปิด ในวันที่ 24.Sep.18 ซึ่งในตอนนั้น TCC ได้ทำ ceiling ปิดที่ราคา 0.55 ด้วย Val. 22.3 MB. ซึ่งตลอดทั้งวันนั้นไม่ได้เฝ้าจะก็เลยพลาดความเคลื่อนไหวของ TCC ที่เค้าออกตัวแรงแสดงพละกำลังบางอย่างให้เห็น วันนนั้นพลาดที่จะเข้าซื้อ ไม่เป็นไร เก็บใส่ Watch list ศึกษาต่อ

ii) Financial Statement : เมื่อได้รับความสนใจแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องค้นเพิ่มเติมคือ งบการเงิน ซึ่งเป็นหัวใจหลักๆของการ Confirm ว่าหุ้นดีจริงหรือไม่ ปรากฎว่าหุ้น TCC มีงบการเงินดีเลยทีเดียว งบ Q2/18 พลิกจากขาดทุนเมื่อปี 2560 ( -17.3 MB.) พลิกกลับเป็นกำไร 8 MB. ใน Q2/18 นี้ ซึ่งผ่านเกณฑ์ Minimum factors stock selection มาพร้อมกับ Free Float 70.80% ก็ถือว่าเยอะอยู่ซึ่งก็เป็นสภาพคล่องที่ค่อนข้างเยอะ หาก Free float น้อยกว่านี้หน่อย ซัก 60% จะ OK มากๆ เลย

iii) Chart pattern : การเคลื่อนไหวของ Chart ราคาของ TCC กระตุกขึ้นจากฐานราคาที่น่าเชื่อถือ แท่งแรกวันที่ 24.Sep.18 นั้น เป็นแท่งเขียวยาวที่มี Volume เข้ามามากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี พูดได้ว่าขึ้นมาจากกรอบล่างที่เป็น Flat base เลยทีเดียว นั่นคือมีการทะยอยสะสมหุ้นมาตลอดทั้งปีของ Smart money การยิงแท่งเขียวยาวแบบนี้ครั้งแรกในรอบ1 ปีย่อมต้องมีเหตุผลบางอย่างซ่อนอยู่และราคาก็ขึ้นไปทำ ceiling ได้สำเร็จ price pattern แบบนี้โดยมากแล้วมักมี Momentum ส่งให้ไปต่อได้อีก แม้ในใจตอนนั้นยังลังเล เรื่อง Volume 22.3 MB. ซึ่งหากเทียบกับหุ้นที่เคยเทรด Volume ก็อาจจะดูน้อยๆไปหน่อย

iv) Take action : ในวันที่ตัดสินใจเข้าซื้อนั้นเป็นวันที่ 25.Sep.18 ซึ่งรอดูราคาหลังจากเปิดตลาดตลอดทั้งวัน การเคลื่อนไหวของราคาน้อยมากแทบไม่กระดิกเลย Volume ก็แสนจะน้อยแต่สิ่งหนึ่งที่ต้อง mark note ไว้เลยคือราคาไม่ลงไปต่ำกว่า 0.52 (ราคา ceiling วันก่อนหน้า) แม้แต่ครั้งเดียว ราคาแกว่งอยู่ด้านบน ซึ่งก็ทำให้เราแอบมั่นใจได้ว่า1.คนที่ซื้อขายกันไปเมื่อวานไม่มีใครอยากขายหุ้นตัวนี้เลยในวันนี้2.ยังไม่มีใครให้ความสำคัญกับหุ้นตัวนี้ทั้งที่เค้าแสดงตัวเองออกมาจากฐานแล้วว่าเค้าพร้อมแล้วกับการขึ้นรอบใหม่ในเมื่อราคาแสดงความแข็งแกร่งแบบนี้ ก็เห็นเป็นเหตุสมควรที่จะเข้าซื้อและได้ไม้แรกมาที่ราคา 0.53 ที่สิ้นวัน ATC (at time close) ซึ่งเป็นการซื้อที่ไม่เคยทำมาก่อนคือ ซื่อสิ้นวันที่แท่งแดง (ราคาเปิดสูงปิดต่ำ) แต่ด้วยการทบทวนแล้วศึกษางบแล้ว ศึกษาแนวธุรกิจแล้ว พร้อมกับเทรนของหุ้นใน Sector : Energy & Utilities ก็ยังเป็นเทรนที่ดีอยู่ จึงเป็นเหตุให้ซื้อ TCC ไม้ที่ 1

v) Wait and See : หลังจากเข้าซื้อแล้ว ปรากฎว่าราคาเคลื่อนตัวออกด้านข้าง 5 วันและแท่งราคาปิดใกล้เคียงกันมาก และ Volume ก็แห้งมากด้วย ซึ่งดูเหมือนเป็นการสะสมและเปลี่ยนมือผู้เล่นที่เป็นไปอย่างเงียบๆ ซึ่งเป็นเหตุให้ในวันถัดมา 3.Oct.18 แท่งราคาเขียวยาวก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลจากการสะสมหุ้นช่วงก่อนหน้า และวันนี้ดูเหมือนผู้คนกำลังชายตามอง แต่ก็ยังคงไม่มีการ Action เกิดขึ้นมากเท่าที่ควร


vi) Take action : การเข้าซื้อเกิดขึ้นอีกครั้ง เพราะด้วยเหตุผลที่ซื้อเพิ่มคือ ได้ของตอนที่ต้นทุนต่ำ และจังหวะแท่งเขียวยาวที่ 2 นี้เองเป็นการ Confirm ขาขึ้นแน่ๆ จึงเป็นเหตุให้เข้าซื้อครั้งที่ 2 ด้วยเงิน 1/3 ของเงินก้อนแรกที่เข้าซื้อ เพื่อให้ค่าเฉลี่ยต้นทุนยังคงต่ำอยู่นั่นเอง (เป็นเทคนิคการซื้อเพิ่มแบบปิรามิดของ William O’neil) อยู่เฝ้า TCC จนจบวันสุดท้ายได้ของมาเพิ่มในราคา 0.55 ที่ ATC ของวันที่ 03.Oct.18

vii) Sold : ตอนซื้อนั้นจินตนาการว่าหุ้นต้องขึ้นไปได้อีก เพราะซักพักนึงผู้คนจะเริ่มให้ความสนใจเพราะ TCC ติดสแกนหุ้น Top gainer 2-3 ครั้งแล้วตั้งแต่เข้าซื้อไม้แรก โดยที่อาจจะลืมข้อเท็จจริงที่ว่า หุ้นเมื่อขึ้นต้องมีการพักตัว นั่นคือเมื่อมีกำไรแล้ว ผู้คนส่วนหนึ่ง (นักลงทุนระยะสั้นมาก) ก็ต้องขายออกเพื่อเก็บกำไรออกไป และในวันนี้เองที่ต้องขายออกเพราะราคาของ TCC นั้นย่อลงมาแรงจนเกือบจะถึงทุน หลักการคือ “อย่ายอมให้หุ้นที่เคยได้กำไร กลายเป็นขาดทุนเด็ดขาด” จึงเป็นเหตุให้ต้องขาย TCC ออกหมด Port เพื่อเก็บกำไรออกไปก่อนเพราะดูท่าทางไม่ค่อยน่าไว้ใจ ก็ต้อง Safe ตัวเองก่อนไม่ให้เกิดการขาดทุน แต่ตามหลักที่ถูกต้องแล้วนั้น ควรจะต้องขายหุ้นออก 50% ก่อนครั้งแรก เพื่อเป็นการให้โอกาสกับหุ้น ได้พักตัวและเพื่อให้หุ้นได้พิสูจน์ตัวเองก่อน แต่กรณีนี้ขายออกจนหมด อาจะเป็นเพราะ อาการเจ๊กตื่นไฟ ซึ่งก็ไม่ผิดหากขายแล้วได้กำไร เพียงแต่ เราจะไม่มีหุ้นดีๆแบบนี้ในมืออีกแล้ว

viii) Take action (again) : การเข้าซื้อเกิดขึ้นอีกครั้งที่ ATC ของวันที่ 9.Oct.18 ด้วยต้นทุน 0.66 หลังจากพักตัว 2 วัน การเข้าซื้อครั้งนี้เพราะเห็นว่าหุ้นแสดงอาการแข็งแกร่งอีกแล้ว อีกอย่างคือที่ต้องกลับมาซื้ออีกเพราะ หุ้นตัวนี้ทบทวนมาดีแล้ว เสียดายหากไม่มีหุ้นดีๆแบบนี้ติด Port ยอมที่จะซื้อในราคาต้นทุนที่แพงขึ้นแต่หุ้นดีราคาย่อมแพงอยู่แล้ว และผู้ถือหุ้นก็เอาไปขายในราคาที่แพงกว่า ที่เป็น hi-light ของ TCC ก็คือ ในวันที่ 11.Oct.18 เกิดเหตุการณ์หุ้นตกทั้งโลก ทั่วภูมิภาค ตลาดดาวโจนส์ลบกว่า 800 จุด และตลาด เอเชียลบ 2-6% รวมทั้ง SET ที่-4% ในวัที่ 11.Oct.18 แต่ TCC ยืนแข็งอยู่ได้อย่างไม่สะทกสะท้านใดๆเลย เป็นการพิสูจน์แล้วว่าหุ้นดีจริง และกำลังอยู่ในช่วง Mark up phase พร้อมไปต่อ และที่สำคัญ Volume เริ่มมีเข้ามาต่อเนื่องแสดงให้เห็นว่า หุ้น TCC ได้รับความสนใจมากขึ้นแล้วจากนักลงทุนและนักเก็งกำไร เมื่อ Volume เริ่มมีเข้ามา (ซึ่งก็ช้ากว่าเราเพราะเราเห็น 1st see ตัวนี้ก่อนหน้าเป็น2 week แล้ว นี่คือข้อดีของการทำดารบ้านคัดหุ้นทุกวัน) ก็เปรียบเหมือนเชื้อเพลิงที่บรรจุยานแม่พร้อมไปไกลและไปด้วยโมเมนตั้ม วันนี้ก็ยังคงถือต่อ และจะถือจนกว่าจะมีสัญญาณขาย หรือ หลุดเทรนขาขึ้น ทั้งนี้ต้องดูสภาพรวมของตลาดอ้างอิงด้วย เมื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ไหมตัวทันท่วงที



:::::::::: Remark ::::::::
เนื้อหาทั้งหมดข้างต้นไม่มีเจตนาชี้นำการลงทุน เป็นการทบทวนเพียงเพื่อให้ได้มีการบันทึกในส่วนของสาระสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจและทบทวนการลงทุนและเก็งกำไรในส่วนของตัวเองเท่านั้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

[ b i g 7 s h o t s i n 3 y e a r s ] http://lnnk.in/iWX ตั้งแต่ปี  2016  เรามีโอกาสทำเงินได้กี่ครั้ง สำหรับแอดมินมองว่ามี...